วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"ทัศน์ ทัศน์ ทัศน์"





สำนักบริหารงานศิลปวัฒนธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ข่าวประชาสัมพันธ์

นิทรรศการ                                                           "ทัศน์ ทัศน์ ทัศน์"
หน่วยงานที่รับผิดชอบ/ศิลปิน                          สำนักบริหารงานศิลปวัฒนธรรม จุฬาฯ จัดแสดงผลงานของ
ผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และคณาจารย์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ลักษณะงาน                                                          จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย
พิธีเปิดนิทรรศการ                                             วันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 เวลา 16.00 น.
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดี
ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด
ระยะเวลาที่จัดแสดง                                3 ธันวาคม 2555  ถึง 22 กุมภาพันธ์ 2556
ห้องนิทรรศการ                                     นิทรรศสถาน อาคารศิลปวัฒนธรรม
แนวความคิด
                สืบเนื่องจากสำนักบริหารงานศิลปวัฒนธรรม ได้จัดให้มีการแสดงนิทรรศการศิลปะของผู้บริหารและคณาจารย์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้ชื่อนิทรรศการว่า เส้นสายของผู้บริหาร : ศิลปะแห่งเหมันตฤดู โดยผู้บริหารของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนิทรรศการ ปฐมการณ์แห่งมานุษย์ โดย คณาจารย์สาขามนุษยศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาหลายครั้งแล้วนั้น และในปีนี้ ถือเป็นการสร้างความน่าสนใจยิ่งขึ้น จึงได้รวบรวมผลงานทั้งสองนิทรรศการเข้าด้วยกัน เป็นการสร้างแนวความคิดใหม่ภายใต้ชื่อ นิทรรศการ ทัศน์ ทัศน์ ทัศน์ อันหมายถึง ทัศน์แรก คือ ทัศนศิลป์ของผู้บริหาร ทัศน์ที่สอง คือ ทัศนศิลปิน ส่วนทัศน์ที่สาม คือ ทัศนามหาวิทยาลัย


*ผศ.สุรชัย เอกพลากร
ภาควิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ
ทัศนะ ทรรศนะ หรือทัศนา * หมายถึง การเห็น  ความเห็น ไปจนถึงความคิดเห็น ซึ่งหมายถึงการเห็นตั้งแต่การรับรู้ด้วยทัศนะภายนอกไปจนถึงทัศนะภายในของแต่ละตัวตน จากหยาบไปจนถึงละเอียด จากผิวเผินไปจนลุ่มลึก
ทัศนศิลป์* เป็นการสร้างสรรค์ทางศิลปะรูปแบบหนึ่ง เป็นศาสตร์สาขาหนึ่งในอีกหลากหลายสาขา ซึ่งสามารถช่วยให้ความซาบซึ้งเกี่ยวกับคุณค่าของชีวิตของมนุษย์เรามีคำอธิบาย บางครั้งด้วยการอธิบาย บางครั้งด้วยการไม่อธิบาย และบางครั้งด้วยการตั้งคำถาม.....
ย้อนไปในประวัติศาสตร์ขณะที่โลกเรายังไม่มีกล้องถ่ายรูป ภาษาเขียนก็แพร่หลายอยู่ในหมู่ผู้รู้เพียงไม่กี่ท่าน สังคมก็ได้อาศัยทัศนศิลป์นี้แหละเป็นสื่อถ่ายทอดให้เห็นภาพ แทนข้อเขียน แทนคำพูด แทนจินตนาการที่อธิบายได้ยาก แม้ทุกวันนี้ จะมีผู้รู้ภาษาเขียนมากขึ้น เราก็ยังคงต้องใช้ภาพในการช่วยอธิบายคำพูดและข้อเขียน ในหลายๆโอกาส เพราะการเห็นด้วยตาตนเอง(ทั้งด้วยการมองออกไป และการมองเข้ามาในตน) ทำให้มนุษย์เราได้รับคำอธิบายที่ดีที่สุด เมื่อมนุษย์เราพัฒนาจนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น จากเพียงแค่ทัศนะก็หลอมรวมขึ้นเป็นทัศนคติ มนุษย์เราก็เริ่มมีคำถามมากขึ้นตามไปด้วย บางคำถามเมื่อยังไม่รู้คำอธิบายก็จะมุ่งมั่นค้นคว้าต่อไป และหากคำตอบยังไม่เป็นที่กระจ่าง การค้นคว้าก็จะยังคงดำรงอยู่ไม่เสื่อมคลาย
                เมื่อทัศนะหรือการเห็น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการใช้ชีวิต มนุษย์เราจึงมีการพัฒนา และใช้ประโยชน์ทั้งจากศาสตร์และสื่อที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้โลกแห่งการสื่อสารในปัจจุบันถูกพัฒนาจนเป็นโลกแห่งการใช้ภาพเป็นสื่อหลัก เนื่องจากภาพดึงดูดความสนใจ สื่อความรู้สึก และช่วยทำให้เข้าใจข้อมูลต่างๆได้ง่ายขึ้น 
                ความเข้าใจจาก"การเห็น" จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่า และเนื่องจากพลังที่เกิดจากการ"เห็นถูก" หรือ"เห็นผิด"นั้นมหาศาล ดังนั้นบทบาทของทัศนศิลป์ ในฐานะของศาสตร์ซึ่งสามารถช่วยให้เข้าใจและเกิดความซาบซึ้งเกี่ยวกับคุณค่าของชีวิตของมนุษย์เรา จึงยิ่งเข้มข้นขึ้นด้วยการอธิบาย การไม่อธิบาย และการตั้งคำถาม เพื่อช่วยให้มนุษย์เราสะดุดถาม สะดุดคิด และเกิดการศึกษาขึ้นทั้งภายนอก และภายในตัวตน เพื่อที่จะได้พัฒนาไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด...อย่างมีทิศทางและสุนทรียะ

*ทัศนศิลป์ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒.หมายถึง ศิลปกรรมประเภทหนึ่งซึ่งแสดงออกด้วยลักษณะ ที่เป็นรูปภาพหรือรูปทรง รับรู้ได้ด้วยการเห็นและสัมผัสได้ด้วย การจับต้อง เช่น ภาพจิตรกรรม ภาพพิมพ์ งานประติมากรรม งานสถาปัตยกรรม ความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒.


นิทรรศสถาน เปิดให้เข้าชมทุกวัน   จันทร์ ศุกร์  เวลา 09.00 17.00น. 
                                                                ปิดให้บริการ เสาร์,อาทิตย์ และวันหยุดราชการ